ครั้งที่ ๓๐ : พยัญชนาเทสสนธิ คือ การเชื่อมบทโดยแปลงพยัญชนะ
การแปลงพยัญชนะ ในฏวรรค
(ต่อ)
หลักการใช้
: อุทาหรณ์ของการแปลงพยัญชนะ ฎวรรคและตวรรค
ในที่นี้ยก
ฎวรรคและตวรรคมาแสดงก่อน ส่วนในวรรคอื่นๆจะแสดงไปตามลำดับ
-----
ในฏวรรค
(ณ)
เมื่อแปลง ณ เป็น
ญ ในเพราะ ย แล้ว ย จะกลายเป็นปุพพรูป คือ ญ เช่น
กลุ่มคำชุดแรก
คือ โปกฺขรญฺโญ, โปกฺขรญฺญา, โปกฺขรญฺญํ
ทั้งสามนี้
ศัพท์เดิมมาจาก
โปกฺขรณี สระบัว
ลง โย, นา, สฺมึ ก็จะได้รูปเป็น
โย = โปกฺขรญฺโญ, นา = โปกฺขรญฺญา, สฺมึ = โปกฺขรญฺญํ
ท่านสาธุชนทั้งหลาย
ย ที่จะเป็นเหตุให้แปลง ณ เป็น ญ ใน ๓ วิภัตตินี้จะแยกเป็น ๓ ประเด็น
๑)
ยที่เป็นเหตุให้แปลง ณ เป็น ญ ใน โปกฺขรญฺโญ ก็คือ ยที่เป็นวิภัตติ คือ ใน
โยวิภัตติ,
๒)
ยที่เป็นเหตุให้แปลง ณ เป็น ญ ในโปกฺขรญฺญา คือ ย ที่เป็นอาเทส (ตัวแปลง) ของ
นาวิภัตติ
๓)
ยที่เป็นเหตุให้แปลง ณ เป็น ญ ในโปกฺขรญฺญํ คือ ยํ ที่เป็นอาเทสของสฺมึวิภัตติ.
สำหรับขั้นตอนการแปลง
ยเป็นปุพพรูปมีดังนี้
จะเริ่มที่
โปกฺขรญฺโญ ก่อน
โปกฺขรญฺโญ (อ.สระบัวท.)
มาจาก โปกฺขรณี + โย
- เพราะ ย ลบ อี = โปกฺขรณฺ ย โอ ด้วยสูตร
๙๒ เย
ปสฺสิวณฺณสฺส เพราะย ลบ อิ วัณณะชื่อ ป
- เพราะ ย แปลง
ณฺ เป็น ญฺ =
โปกฺขรญฺย โอ ด้วยสูตรนี้ คือ
๔๔. ตวคฺควรณานํ เย จวคฺคพยญาฯ
เพราะ ย แปลง ต
วรรค เป็น จวรรค, ว เป็น พ, ร เป็น ย, และ ณ เป็น ญ ได้บ้าง.
- แปลง ย เป็น ญ
ปุพพรูป = โปกฺขรญฺญ โอ > โปกฺขรญฺโญ ด้วยสูตรที่แล้วคือ
๔๓.
วคฺคลเสหิ เตฯ
ย
ที่อยู่หลัง พยัญชนวรรค , ล และ ส ให้แปลง ย เป็นพยัญชนะวรรค ล และ ส เหล่านั้น
------
โปกฺขรญฺญา (ด้วย,
แก่, จาก, แห่งสระบัว) มาจาก โปกฺขรณี +
นา เป็นต้น
- ท้าย ป นา เป็น ยา > โปกฺขรณี + ยา ด้วยสูตรนี้
๔๕ ฆปโตกสฺมิํ
นาทีนํ ยยา
หลัง ฆ และ ป เอานาวิภัตติเป็นต้นเป็น
ย และ ยา ตามลำดับ
- ลบ อี เพราะ ย,
แปลง ณฺ เป็น ญฺ เพราะ ย และ แปลง ย ที่ ยา เป็นปุพพรูป (เหมือนในรูปโปกฺขรญฺโญ) สำเร็จรูปเป็น
โปกฺขรญฺญา
โปกฺขรณี + นา > โปกฺขรณฺ ยา > โปกฺขรญฺ ยา > โปกฺขรญฺ ญ อา > โปกฺขรญฺญา
โปกฺขรญฺญํ
ในสระบัว มาจาก โปกฺขรณี + สฺมึ
- ท้าย ป สฺมึ เป็น ยํ > โปกฺขรณี ยํ ด้วยสูตร
๑๐๓ ยํ หลัง ฆ และ ป เอา สฺมึ เป็น ยํ
บ้าง
- ลบ อี เพราะ ย เป็นต้น เหมือน โปกฺขรญฺโญ)
โปกฺขรณี + สฺมึ
> โปกฺขรณฺ ย อํ > โปกฺขรญฺ ย อํ > โปกฺขรญฺ ญ อํ >= โปกฺขรญฺญํ ]
วันนี้เห็นทีจะได้แค่
โปกฺขรญฺโญ โปกฺขรญฺญา โปกฺขรญฺญํ ซึ่งเป็นปทมาลาของโปกฺขรณีศัพท์ที่แปลว่า
สระมีดอกบัว.
ทิ้งท้ายด้วยคำว่า
โปกฺขรณี (โปกฺขร ดอกบัว + อี ปัจจัย + นี อิตถีปัจจัย=
โปกฺขรณี) สระมีดอกบัว
ลง อี ปัจจัย
ท้าย โปกฺขร ศัพท์ ในอรรถว่า “มีในสถานที่นี้” ด้วยสูตร ๔๗๖. ทณฺฑาทีหิกอี วา ลง อี อิก
ปัจจัยลงท้ายทณฺฑศัพท์เป็นต้นในอรรถว่า มี (โปกฺขร + อี = โปกฺขรี
สระมีดอกบัว)
ท้าย โปกฺขรี ลง
นี อิตถีปัจจัย ด้วยสูตร
๗๖. ฆรณฺยาทโย
ฆรณีศัพท์เป็นต้น
มีนีปัจจัย ในอิตถีลิงค์. (โปกฺขรี + นี = โปกฺขรีนี)
แปลง อี ที่
โปกฺขรี เป็น อ ด้วยสูตร
๓๓. ตทมินาทีนิ
รูปใดๆที่ไม่สำเร็จด้วยสูตร,
รูปนั้นทั้งหมดสำเร็จได้ด้วยนิปาตนะ คือ การทำบทให้สำเร็จรูปด้วยคำว่า ตทมินา
เป็นต้น
สูตรนี้เป็นมหาสูตร
ใช้สำเร็จรูปที่ไม่มีสูตรให้ทำตัว โดยใช้คำว่า ตทมินา เป็นคำเปรียบเทียบว่า สำเร็จรูปเหมือนคำว่า
ตทมินา เป็นต้น. (โปกฺขร + นี = โปกฺขรนี)
แปลง น เป็น ณ ด้วยสูตร ๔๕. ตถนรานํ
ฏฐณลา ฏ ฐ ณ และล ท.
เป็นอาเทส ของ ต ถ น และร. ได้บ้าง เป็น โปกฺขรณี. โปกฺขรนี
= โปกฺขรณี)
******
ขออนุโมทนา
สมภพ สงวนพานิช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น