ครั้งที่ ๒๘ : พยัญชนาเทสสนธิ คือ การเชื่อมบทโดยแปลงพยัญชนะ
“การแปลงพยัญชนะ
กวรรคและจวรรค”
(ต่อ)
*** กรณีพิเศษ
***
ถาม
ถ้าพยัญชนะหน้า ย เป็นพยัญชนะที่สองของวรรค และเมื่อแปลง ย เป็นปุพพรูป
ก็จะได้รูปที่ไม่พึงประสงค์ว่า ปโมขฺข เมื่อเป็นเช่นนี้ จะทำอย่างไรดี?
ตอบ “เมื่อแปลง
ย เป็นปุพพรูปแล้ว ถ้าพยัญชนะที่อยู่ข้างหน้าตนเป็นพยัญชนะตัวที่สองของวรรค แปลงพยัญชนะที่สองนั้นเป็น พยัญชนะตัวที่ ๑
ของวรรค.”
รูปอุทาหรณ์ที่เกิดจากการแปลงพยัญชนะที่แสดงมา
จะสอดคล้องกับหลักการเขียนพยัญชนสังโยค ในภาษาบาฬี กล่าวคือ ตัวที่ ๑, ๓, ๕ จะเป็นต้วซ้อนของตัวเอง แต่ตัวที่ ๒ และ ที่ ๔
จะซ้อนหน้าตัวเองไม่ได้ ที่เคยกล่าวมาแล้ว. ปัญหาเกิดขึ้นว่า
ในกรณีที่พยัญชนะตัวหน้าของ ย เป็นอักษรที่ ๒ และ ที่ ๔ จะทำอย่างไร ในเมื่อ ย
จะต้องกลายเป็นปุพพรูปเช่น ขฺ + ย > ขฺข, ฆฺ + ย > ฆฺฆ, ฉฺ + ย > ฉฺฉ, ฌฺ + ย > ฉฺฉ ดังนี้เป็นต้น
ในเรื่องนี้
หลังจาก ย กลายเป็นปุพพรูปแล้ว พยัญชนะตัวหน้าที่เป็นพยัญชนวรรคลำดับที่ ๒
ให้แปลงเป็น พยัญชนวรรคลำดับที่ ๑ โดยทำนองเดียวกัน ถ้าเป็นตัวที่ ๔ ให้แปลงเป็น
พยัญชนะตัวที่ ๓ และสำเร็จรูปได้โดยไม่ข้อขัดแย้งแต่อย่างใด
ถาม
มีหลักการใดที่จะทำได้เช่นนั้น
ตอบ ด้วยหลักการของสูตรนี้
คือ
๕๔. จตุตฺถทุติเยสฺเวสํ ตติยปฐมา
ถ้ามีอักษรที่
๔ และ ที่ ๒ ของแต่ละวรรคอยู่หลัง อักษรตัวที่ ๓ และ ตัวที่ ๑
ในวรรคนั้นเป็นตัวซ้อนของอักษรที่ ๔ และ ที่ ๒ เหล่านั้น.
ในบางรูป ถ้าลง
ยปัจจัยท้ายอักษรที่สองของวรรค (เช่น ขฺ ) และเมื่อแปลง ย เป็น ปุพพรูป (คือ ข เป็นต้น)
ก็ให้แปลงอักษรที่สองของวรรคอันเป็นตัวหน้านั้นเป็นพยัญชนะที่ ๑ ของวรรค ด้วยสูตรนี้
เช่น
ปมุข + ณฺย
(ปัจจัยในชาตาทิตัทธิต) = ปาโมขฺข > ปาโมกฺข
ย เป็น ข ปุพพรูป
แล้ว แปลง ขฺ เป็น กฺ ตามหลักการนี้
[ปมุเข
สาธุ ปาโมกฺขํ ความดี (หรือ ความควร, เหมาะสม) ในประธาน ชื่อว่า ปาโมกฺข.]
ท่านสาธชุนทั้งหลาย ควรจดจำไว้ให้ดี เพราะในวรรคอื่นๆ
ก็ยังต้องใช้หลักการนี้เช่นนี้.
วันนี้บรรยายมาพอสมควรแก่เวลา
คราวหน้าจะกล่าวถึงตวรรคบ้าง
ขออนุโมทนา
สมภพ สงวนพานิช
……..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น