อาคมสนฺธิ
อาคมสนธิ คือ
วิธีการเชื่อมบทโดยเพิ่มอักษร
อถาคมสนฺธิ
ทีปิยเตฯ
ต่อจากอาเทสสนธิ
จะแสดงอาคมสนธิ
มหาวุตฺตินา
สราคโม –
สระเป็นอาคม ถูกทำได้โดยสูตรใหญ่
อ –
(สระ) อ
เป็นอาคม
ปณฺณสาลํ
อมาเปตฺวา[1], ปณฺณสาลํ อมาปิย[2]– มาเปตฺวา อิจฺเจวตฺโถ, น จาปิ อปุนปฺปุนํ, หตฺถิโพนฺทิํ ปเวกฺขามิ [3]-ปุนปฺปุนํ อิจฺเจวตฺโถ, นตฺถิ
โลเก อนามตํ[4]–
อมต ปุพฺพํ ฐานนฺติ อตฺโถ, อนวชฺชํ, อนมตคฺโค, ชจฺจนฺโธ, ชจฺจพธิโร,
ชจฺจมูโค, ชจฺจปณฺฑโกฯ
ตัวอย่าง
ปท
|
ปทจฺเฉท
|
คำแปลและอธิบายสังเขป
|
ปณฺณสาลํ
อมาเปตฺวา,
|
อ + มาเปตฺวา
|
เนรมิตแล้วซึ่งบรรณศาลา
|
ปณฺณสาลํ
อมาปิย
|
อ + มาปิย (ตฺวา)
|
เนรมิตแล้วซึ่งบรรณศาลา
คำนี้คือ มาเปตฺวา นั่นเอง
|
น
จาปิ อปุนปฺปุนํ,
หตฺถิโพนฺทิํ
ปเวกฺขามิ
|
อ + ปุนปฺปุนํ
|
แม้ข้าพเจ้าจะไม่เข้าไปสู่ซากช้างนั้นอีก
คำว่า อปุนปฺปุนํ คือ ปุนปฺปุนํ
นั่นเอง
|
นตฺถิ
โลเก อนามตํ –
|
น + อมตํ
|
สถานที่ไม่ตายไม่มีในโลก
คำว่า อนามตํ คือ ที่ไม่เคยตาย
|
อนวชฺชํ,
|
น + อวชฺชํ
|
ไม่มีโทษ
|
อนมตคฺโค,
|
น + อมตคฺโค
|
มีที่สุดอันใครรู้ไม่ได้
|
ชจฺจนฺโธ,
|
ชาติ + อ +อนฺโธ
|
บอดแต่กำเนิด
|
ชจฺจพธิโร,
|
ชาติ + อ +พธิโร
|
หนวกแต่กำเนิด
|
ชจฺจมูโค,
|
ชาติ + อ+ มูโค
|
ใบ้แต่กำเนิด
|
ชจฺจปณฺฑโกฯ
|
ชาติ + อ+ ปณฺฑโก
|
เป็นบัณเฑาะก์แต่กำเนิด
|
ศึกษาบาฬีไวยากรณ์กับคัมภีร์นิรุตติทีปนีิ
คร้้งที่ ๗๓ : อาคมสนธิ การเชื่อมบทโดยการแทรกเสียง
ได้แสดงการเข้าสนธิ
คือ การเชื่อมบทเข้าหากันโดยวิธีหลายประการ เริ่มตั้งแต่ตั้งการลบเสียงหน้าและหลังเป็นต้น
จนกระทั่งมาถึงการเปลี่ยนเสียงมาแล้ว บัดนี้จะแสดงการเชื่อมบทโดยการแทรกเสียง
ที่มีชื่อเรียกว่า อาคม เป็นลำดับไป
คำว่า อาคม
เป็นชื่อของอักษรหรือเสียงที่เพิ่มเข้าไปเพื่อเชื่อมบท (บทสนธิ) หรืออักษรในบทนั้น
(วัณณสนธิ) โดยมิได้ทำให้อักษรเดิมเปลี่ยนไปหรือมาแทนอักษรเดิม
เหมือนอย่างอักษรอาเทส มีคำกล่าวว่า อาเทสเหมือนปัจจามิตร ส่วนอาคมเหมือนมิตร
เพราะไม่ได้ทำลายหรือเปลี่ยนแปลงอักษรเดิมแต่ประการใด
ต่อไปนี้จะเรียกอักษรที่เพิ่มเข้ามาว่า
“อาคม”.
อักษรอาคม
ในที่นี้ท่านแบ่งออกเป็น สระอาคม และ พยัญชนะอาคม ที่รวมถึงนิคคหิตอาคมด้วย.
จะกล่าวถึงสระอาคมก่อน.
----
สระอาคม
มีทั้งหมดเท่าที่แสดงไว้ในที่นี้อยู่ ๖ ตัว คือ อ อา อิ อี อุ และ โอ
ในคัมภีร์นิรุตติทีปนี
ท่านมิได้แสดงสูตรการลงสระ ๖ ตัวนี้เป็นอาคม เพียงแต่บอกว่า “มหาวุตฺตินา สราคโม”
สระอาคม สำเร็จรูปหรือทำได้ด้วยด้วยมหาสูตร. มหาสูตรที่ว่านี้ ได้แก่สูตรว่า
“ตทมินาทีนิ” นั่นเอง หมายความว่า เมื่อจะอ้างอิงการลงอาคมก็ให้อ้างอิงด้วยสูตรว่า
ตทมินาทีนิ อักษรมีคำว่า ตทมินา เป็นต้นเป็นคำใช้สำเร็จรูปอุทาหรณ์ตามที่ต้องการ.
----
อ อาคม
มีสำนวนโวหารทางไวยากรณ์ที่นิยมใช้เกี่ยวกับอักษรอาคมนี้ว่า
“ลง อ อาคม” หรือ “อเป็นอาคม” ซึ่งก็หมายความว่า เพิ่มอักษรคืออ
ลงไปในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งตามที่ต้องการแล้วแต่ว่า ข้อกำหนดของอาคมนั้น
จะถูกกำหนดว่า ต้องมีสระ พยัญชนะ หรือ นิคคหิตเป็นนิมิต คือ จุดกำหนดตำแหน่ง.
สำหรับ การใช้
สระ คือ อ เป็นอาคมนั้น นิยมลงหน้าบท พึงสังเกตตามตัวอย่างต่อไปนี้
ปณฺณสาลํ
อมาเปตฺวา
เนรมิตแล้วซึ่งบรรณศาลา
ปณฺณสาลํ
อมาปิย เนรมิตแล้วซึ่งบรรณศาลา
คำว่า อมาเปตฺวา
ก็มาจากคำว่า อ + มาเปตฺวา
คำว่า อมาปิย
ก็มาจากคำว่า อ + มาปิย
ดังนั้น คำว่า อมาเปตฺวา
ก็ดี อมาปิย ก็ดี มีความหมายเดียวกัน คือ มาเปตฺวา แปลว่า เนรมิต หรือ
ให้สำเร็จแล้ว. ส่วน อ ไม่ได้มีความหมายใด จึงคงแปลว่า นิรมิตแล้ว ส่วนคำว่า
อมาปิย แปลง ตฺวา เป็น ย เหมือนที่เคยกล่าวมา
เรื่องสระอเป็นอาคมยังมีอีกหลายคำที่น่าสนใจครับ
บางคำก็มองไม่เห็นว่า มีการลงอาคม หรือ จะลงอาคมไว้ตรงไหนดี
คราวหน้ามากล่าวต่อไปครับ …..
ขออนุโมทนาครับ ...
สมภพ สงวนพานิช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น