อี –
สระ อี เป็น อาคม
กพฬีกาโร, มนสีกาโร, มนสีกโรติ, ตปฺปากฏีกโรติ,
ทูรีภูโต, อพฺยยีภาโว ฯ
ตัวอย่าง
ปท
|
ปทจฺเฉท
|
คำแปลและอธิบายสังเขป
|
กพฬีกาโร
|
กพฬ + อี + กาโร
|
อาหารที่ถูกทำให้เป็นก้อน
|
มนสีกาโร,
|
มน + สิ (สฺมิ) + อี + กาโร
|
การทำไว้ในใจ การตั้งไว้ในใจ
|
มนสีกโรติ,
|
มน + สิ (สฺมึ) + อี + กโรติ
|
ย่อมทำไว้ในใจ, ย่อมตั้งไว้ในใจ
|
ตปฺปากฏีกโรติ,
|
ตปฺปากฏ + อี + กโรติ
|
ย่อมทำสิ่งนั้นให้ปรากฏ
|
อพฺยยีภาโว
|
อพฺยย + อี + ภาโว
|
ความเป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยน,
อัพยยีภาวะ
|
ทูรีภูโตฯ
|
ทูร + ภูโต
|
สิ่งมีในที่ไกล
|
ศึกษาบาฬีไวยากรณ์กับคัมภีร์นิรุตติทีปนี
ครั้งที่ ๗๘ :
การลง อี อาคม
เมื่อคราวที่แล้วได้ศึกษาเรื่องการลง
อิ อาคม บัดนี้จะได้ศึกษาถึงที่มาของศัพท์เหล่านี้คือ กพฬีกาโร มนสีกาโร มนสีกโรติ
ตปฺปากฏีกโรติ, อพฺยยีภาโว, ทูรีภูโต
คำศัพท์เหล่านี้
จะมี สระ อี แทรกอยู่ระหว่างบทหน้าและหลัง
กพฬีกาโร อาหารที่ถูกทำโดยความเป็นก้อน
กพฬ + อี + กาโร
= กพฬีกาโร
ศัพท์นี้มาจาก
กพฬ ที่แปลว่า ก้อน นำมาเข้าสมาสกับคำว่า กาโร สิ่งที่ถูกทำ ได้แก่
อาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อรวมเป็นบทเดียวกัน เพิ่มสระ อี เป็นอักษรอาคมระหว่างกลางเป็น กพฬีกาโร แปลว่า
อาหารที่ถูกทำโดยความเป็นก้อน ความหมายคือ อาหารที่ถูกแบ่งเป็น ๑ คำ หรือ
ป้้นให้เป็นก้อนเพื่อสะดวกแก่การรับประทานนั่นเอง.
กพฬ คือ ก้อนข้าว
คัมภีร์อภิธานนัปปทีปิกา
คาถา ๔๖๖ กล่าวถึงศัพท์ที่ใช้ในความหมายว่า ก้อนข้าว ว่า
อาโลโป กพโฬ
ภเวฯ
ศัพท์ที่ใช้ความหมายของก้อนข้าวมี
๒ คือ อาโลป และ กพฬ
คัมภีร์อภิธานัปปทีปิกาฎีกา
แสดงธาตุและปัจจัยของศัพท์นี้ไว้ ๓ นัย คือ[1]
๑. กุ ธาตุ
ในอรรถว่า สทฺท ส่งเสียง + อล ปัจจัย เป็นนามกิตก์ คัมภีร์อภิธานวรรณนาแสดงรูปวิเคราะห์ว่า
กวติ อเนนาติ กพโฬ คำข้าวที่ทำให้เสียงดัง ชื่อว่า กพฬ (วุทธิ อุ เป็น โอ, อาเทศ
โอ เป็น อว, ว เป็น พ, ล เป็น ฬ.)
๒. มาจาก กพิ
ธาตุ ในอรรถว่า วณฺณ สรรเสริญ + อล ปัจจัย (แปลง ล เป็น ฬ)
คัมภีร์อภิธานวรรณนาให้รูปวิเคราะห์ว่า
กพิตพฺโพติ กพโฬ
คำข้าวที่เขาสรรเสริญ ชื่อว่า กพฬ
๓. มาจาก ก =
น้ำ เป็นบทหน้า + พล= กำลัง + ณ + อ ปัจจัย
คัมภีร์อภิธานวรรณนา ให้รูปวิเคราะห์ว่า
เกน โตเยน
พลมสฺสาติ กพโฬ. คำข้าวที่มีกำลังเพราะน้ำ ชื่อว่า กพฬะ
จะเห็นได้ว่า
รูปวิเคราะห์ที่แสดงความเป็นไปของศัพท์ว่า กพฬ โดยคล้อยตามอรรถของธาตุและปัจจัย
อันเป็นเหตุแห่งความเป็นไปของศัพท์ เรียกว่า สัททัปปวัตตินิมิต
การถือเอาความหมายตามสัททัปปวัตตินิมิตนี้ เรียกว่า สัททัตถนัย แต่อย่างไรก็ตาม
คำนี้ก็มีความหมายตามที่ชาวโลกเรียกกัน คือ ก้อนข้าว นั่นเอง
การแปลบางครั้ง
ก็ควรถือเอาแต่ใจความเท่านั้นโดยไม่ต้องเพ่งบทพยัญชนะมากเกินไป
ดังที่พระอรรถกถาจารย์กล่าวไว้ว่า
พฺยญฺชเน อาทรํ
อกตฺวา อธิปฺเปตเมว คเหตพฺพํ (กงฺขา. ๑๑๔)
แปลว่า ไม่ต้องเอื้อเฟื้อในพยัญชนะ พึงถือเอาแต่ใจความเท่านั้น. (จากหนังสือเรื่อง นานาสาระ โดยพระธัมมานันทมหาเถระ
ธรรมาจริยะ)
มีตัวอย่างของคำว่า
ก้อนข้าว นี้ในพระบาฬี เช่น
นาติมหนฺตํ กพฬํ
กริสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา (วิ. ๒/๒๕๔)
ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า
เราจักไม่ทำคำข้าวให้ใหญ่นัก.
ส่วนคำว่า
กพฬีกาโร มาจาก กพฬ + กาโร และลงอีอาคมตามหลักการนี้ เป็น กพฬีกาโร แปลว่า อาหาร
คือ ก้อนข้าว คัมภีร์ต่างๆ ก็ให้ความหมายว่า
กรียตีติ กาโร,
กพโฬ กาโร กพฬีกาโร (มณิ.มญฺชู ๒/๑๓๔)
สิ่งอันบุคคลย่อมทำ
ชื่อว่า กาโร, สิ่งอันบุคคลทำคือคำข้าว ชื่อว่า กพฬีการะ
กพฬํ กตฺวา
อชฺโฌหริตพฺพโต กพฬีกาโร อาหาโร. (ม.อ. ๑/๒๑๑)
อาหาร คือ
กพฬีการะ เพราะเป็นอาหารที่บุคคลพึงทำให้เป็นก้อนแล้วกลืนกิน.
กพฬํ กรียตีติ
กพฬีกาโร. อภิ.อ. ๑/๓๖๖)
อาหารอันบุคคลย่อมทำให้เป็นคำข้าว
ชื่อว่า กพฬีการะ
อสิตปีตขายิตสายิตปฺปเภโท
กพฬีกาโร อาหาโรว อิมสฺมิํ อตฺเถ อาหาโรติ อธิปฺเปโต. (วิสุทฺธิ ๑/๓๓๖)
อาหารคือกพฬีการะ
ที่ต่างโดยสิ่งที่กิน ดื่ม เคี้ยว และ ลิ้ม (ชิม) รส ท่านประสงค์ว่า อาหาร
ในความหมายนี้
ขออนุโมทนา
สมภพ สงวนพานิช
-----
[1] กพฬ
(กุ + อล, กพิ + อล, ก + พล ธาน.ฎี. ๔๖๖) ๔๖๖. ทฺวยํ
อาโลเปฯ ลุป เฉทเน, อาปุพฺโพ
สมฺปิณฺฑเน, กุ สทฺเทฯ กพิ
วณฺเณ วา, อโล, ฬตฺตํ, เกน โตเยน พลมสฺสาติ วา กพโฬ, ปุเม,
คาโสปิฯ
(ธาน.๔๖๖
แสดงศัพท์ที่แสดงถึงก้อนข้าวไว้ ๒ คำ คือ อาโลป และ กพฬ. ในที่นี้ต้องการคำว่า กพฬ
แปลว่า ข้าวที่มีกำลังด้วยน้ำ กุ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น