วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

๗๖.อา อาคม

อา
(สระ) อา เป็นอาคม

อฑฺเฒ อาชายเร กุเล[1], มนุสฺเสสุ ปจฺจาชาโต, อาปูรติ ตสฺส ยโส [2]
ตัวอย่าง

ปท
ปทจฺเฉท
คำแปลและอธิบายสังเขป
อฑฺเฒ อาชายเร กุเล
อา + ชายเร
พึงเกิดในตระกูลมั่งคั่ง
มนุสฺเสสุ ปจฺจาชาโต
ปติ>ปจฺจ + อา + ชาโต
ผู้กลับมาเกิดในหมู่มนุษย์อีก
อาปูรติ ตสฺส ยโส
อา + ปูรติ
ยศของเขาย่อมบริบูรณ์



ศึกษาบาฬีไวยากรณ์กับคัมภีร์นิรุตติทีปนี
คร้้งที่ ๗๖ : อาคมสนธิ การเชื่อมบทโดยการแทรกเสียง
ต่อไปเป็น สระอา เป็นอาคม.
ตัวอย่างการใช้สระอาเป็นอาคมนี้ มีไม่มากนัก

อฑฺเฒ อาชายเร กุเล พึงเกิดในตระกูลมั่งคั่ง
ในตัวอย่างนี้ อาชายเร ตัดเป็น อา + ชายเร อา เป็นอาคม ไม่ใช่ อาอุปสัค ดังนั้น คำนี้จึงแปลว่า พึงเกิด ไม่ต้องแปลออกอรรถใด เหมือนอย่าง อาอุปสัค.

มนุสฺเสสุ ปจฺจาชาโต เกิดใหม่, (กลับมาเกิดในหมู่มนุษย์อีกครั้ง)
ตัวอย่างนี้ มนุสฺเสสุ ปจฺจาชาโต
ในเบื้องต้นข้าพเจ้าตรวจดูในพระบาฬีปัจจุบันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ไม่พบอุทาหรณ์นี้ คงมีแต่ มนุสฺเสสุ ปจฺจาชายติ ความหมายเหมือนกัน ต่างเพียงเป็นบทกิริยาอาขยาตเท่านั้น เช่น
อปฺปกา เต สตฺตา เย มนุสฺเสสุ ปจฺจาชายนฺติ; อถ โข เอเตว สตฺตา พหุตรา เย อญฺญตฺร มนุสฺเสหิ ปจฺจาชายนฺติฯ (อํ.เอก. ๒๐/๓๒๓)
สัตว์ที่กลับมาเกิดอีกในมนุษย์ท.มีน้อย, ที่เกิดในสัตว์เหล่าอื่นจากมนุษย์มีมาก.
อรรถกถาและฎีกาของพระสูตรนี้อธิบายว่า สัตว์เหล่าอื่นในที่นี้ หมายถึง อบาย ๔ เท่านั้น ไม่ใช่เทวดา เพราะในที่นี้หมายเอาสัตว์ที่มีชาติกำเนิดต่ำกว่ามนุษย์. กล่าวคือ ตายจากมนุษย์โลกแล้วมาเกิดในโลกมนุษย์อีกนั้นมีน้อย.
ในคัมภีร์ฎีกาบางแห่งเรียก อา อาคมนี้ว่า เป็นเพียงอุปสัค (อุปสคฺคมตฺตํ) ที่ไม่มีความหมายเหมือนที่ใช้ในอรรถอื่น เหมือนที่เรียก ออาคมว่า เป็นเพียงนิบาต (นิปาตมตฺตํ)

อาปูรติ ยสฺส ยโส
ยศของเขาย่อมบริบูรณ์
อา ที่ปูรติ คือ อาอาคมในที่นี้
ข้อความนี้มาในปริวารบาฬี ว่า
ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา,   โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;
อาปูรติ ตสฺส ยโส,           สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมาติฯ
ผู้ใดไม่ประพฤติล่วงธรรม เพราะชอบ เพราะชัง เพราะกลัว เพราะหลง ยศของผู้นั้นย่อมเต็มเปี่ยมเหมือนดวงจันทร์ในวันข้างขึ้น ฉะนั้น (วิ.ปริ. ๘/๑๑๐๗)

ขออนุโมทนาครับ
สมภพ สงวนพานิช



[1] [สํ. นิ. ๑.๔๙]
[2] [ปริ. ๓๘๖]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น