(การลบนิคคหิต)
นิคฺคหีตสฺส
กฺวจิ โลโป โหติ วาฯ
๓๑. โลโปฯ
นิคคหิตถูกลบไปได้บ้าง
ในบางแห่ง
นิคคหิตถูกลบบ้าง ไม่ถูกลบบ้าง
สเร ปเร
ตาว –
เอวาหํ
จินฺตยิตฺวาน
[พุ. วํ. ๒.๒๗], ปุปฺผทานํ
อทาสหํ-อทาสิํ+อหนฺติ เฉโท, พินฺทุโลโป, ปุน ปุพฺพสรโลโป, ตุยฺหตฺถาย มหามุนิ, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ [ที. นิ. ๒.๑๗๘], ตาสาหํ สนฺติเก [ปาจิ. ๗๐๙], เตสาหํ
เอวํ วทามิ, ปญฺจนฺเนตํ ธมฺมานํ อธิวจนํ, ฉนฺเนตํ ธมฺมานํ อธิวจนํ, สมณ ตฺเวว ปุจฺฉามิ
[ชา. ๒.๒๒.๒๕๓ สมณ เตว], พฺราหฺมณ ตฺเวว
ปุจฺฉามิ [ชา. ๒.๒๒.๒๕๘ พฺราหฺมณ เตว] -ตฺวํ+เอวาติ เฉโท, วิทูนคฺคมิติฯ
ลำดับแรกจะกล่าวถึงการลบนิคหิตที่อยู่ติดกับสระหลังก่อน.
เอวํ + อหํ =
เอวาหํ. เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน
อทาสึ + อหํ =
อทาสหํ. อทาปุปฺผทานํ อทาสหํ.
รูปนี้ตัดบทเป็น อทาสึ อหํ, ลบนิคคหิต (ด้วยสูตรนี้), ลบสระหน้า ซ้ำอีก.
ตุยฺหํ + อตฺถาย
= ตุยฺหตฺถาย. ตุยฺหตฺถาย มหามุนิ
ตุยฺหํ เอว =
ตุยฺเหว. ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ.
ตาสํ อหํ =
ตาสาหํ. ตาสาหํ สนฺติเก.
เตสํ อหํ =
เตสาหํ. เตสาหํ เอวํ วทามิ.
ปญฺจนฺนํ เอตํ =
ปญฺจนฺเนตํ. ปญฺจนฺเนตํ ธมฺมานํ อธิวจนํ.
ฉนฺนํ เอตํ =
ฉนฺเนตํ. ฉนฺเนตํ ธมฺมานํ อธิวจนํ.
ตฺวํ เอว = เตฺวว. สมณ เตฺวว ปุจฺฉามิ, และ พฺราหฺมณ เตฺวว ปุจฺฉามิ. รูปนี้ตัดบทเป็น ตฺวํ + เอว.
วิทูนํ อคฺคํ =
วิทูนคฺคํ. วิทูนคฺคมิติ.
พฺยญฺชเน
ปเร –
ตํ
ตุยฺหมูเล ปฏิเทเสมิฯ
ที่อยู่ติดกับพยัญชนะหลัง
ตุยฺหํ
มูเล = ตุยฺหมูเล. ตํ ตุยฺหมูเล ปฏิเทเสมิ.
คาถายํ –
อริยสจฺจานทสฺสนํ [ขุ. ปา. ๕.๑๑], เอตํ พุทฺธาน สาสนํ [ธ. ป. ๑๘๓], ขนฺธานญฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ [ธ. ส. อฏฺฐ. นิทานกถา]ฯ
ในคาถาก็ลบได้
อริยสจฺจานํ
ทสฺสนํ =
อริยสจฺจานทสฺสนํ.
‘‘ตโป จ พฺรหฺมจริยญฺจ, อริยสจฺจาน ทสฺสนํ;
นิพฺพานสจฺฉิกิริยา
จ,
เอตํ มงฺคลมุตฺตมํฯ
พุทฺธานํ
สาสนํ = พุทฺธานสาสนํ
‘สพฺพปาปสฺส
อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;
สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธานสาสนํฯ
ธาตุอายตนานํ
จ = ธาตุอายตนาน จ
ขนฺธานญฺจ
ปฏิปาฏิ,
ธาตุอายตนาน จ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ
วตฺตมานา,
สํสาโรติ ปวุจฺจตีติฯ
มาคเม
ปเร –
ครุโฬ อุรคามิว [ชา. ๑.๔.๑๒๔ สุปณฺโณ], ธมฺโม อรหตามิว [ที. นิ. ๒.๓๔๘], อาโลโก ปสฺสตามิว [สุ. นิ. ๗๖๙], พโก กกฺกฏกามิว [ชา. ๑.๑.๓๘], นภํ ตารกิตามิว [ชา.
๒.๒๒.๑๙๘๙ ตาราจิตามิว], ปทุมํ หตฺถคตามิว
[ชา. ๒.๒๒.๒๓๓๖] -เอเตสุ มาคเม พินฺทุโลโป,
พฺยญฺชเน ปุพฺพสรทีโฆ จฯ
ที่ติดกับมอาคมข้างหลัง
ในกรณีนี้ ลบนิคคหิตที่อยู่ติดกับมอาคม และทีฆสระหน้าที่อยู่ติดกับพยัญชนะหลัง
ตัวอย่างเช่น
อุรคํ อิว =
อุรคามิว. ครุโฬ อุรคามิว. (ลบนิคคหิตด้วยสูตรนี้ อุรค อิว ลงมฺ เป็นอาคม อุรค มฺ
อิว, ทีฆสระหน้าที่อยู่ติดกับมฺข้างหลัง)
อรหตํ อิว = อรหตามิว. ธมฺโม อรหตามิว.
ปสฺสตํ อิว =
ปสฺสตามิว. อาโลโก ปสฺสตามิว.
กกฺกฏกํ อิว =
กกฺกฎกามิว. [1]พโก
กกฺกฏกามิว
ตารกิตํ อิว = ตารกิตามิว. นภํ ตารกิตามิว.
หตฺถคตํ อิว =
หตฺถคตามิว. ปทุมํ หตฺถคตามิว
ตถา
สํอุปสคฺคสฺส พินฺทุโลเป อนฺตสรทีโฆ –
สาราโค, สารตฺโต, อวิสาหาโร, สารมฺโภ,
สารทฺโธ, สาเกตํ นครํ, สาธารณํ,
สํ อสฺส อตฺถีติ สามีฯ
สำหรับ สํอุปสัค
เมื่อลบนิคคหิตแล้ว ทีฆสระท้าย (ของสํ ที่ลบนิคคหิตไปแล้ว) ได้ด้วย
สํ ราโค =
สาราโค,
สํ รตฺโต = สารตฺโต
อ วิ สํ หาโร =
อวิสาหาโร,
สํ รมฺโภ = สารมฺโภ,
สํ อารทฺโธ =
สารทฺโธ,
สํ เกตํ =
สาเกตํ. สาเกตํ นครํ,
สํ อาธารณํ = สาธารณํ,
สํ อี =
สามี. สํ อสฺส อตฺถีติ สามีฯ[2]
สมาเส
ตุมนฺตมฺหิ นิจฺจํ –
กตฺตุกาโม, คนฺตุกาโม อิจฺจาทิฯ
ในสมาส
ลบนิคคหิตท้ายบทที่มีตุ–เป็นที่สุดแน่นอน
กตฺตุ–กาโม =
กตฺตุกาโม
คนฺตุ–กาโม =
คนฺตุกาโม.
อิติ
พินฺทุโลปราสิฯ
กลุ่มอักษรคือนิคคหิตที่ถูกลบไป
เป็นอย่างนี้.
[1]
ในพกชาดกอรรถกถา แก้เป็น พโก กกฺกฏกามิว, ยถา
พโก กกฺกฏกา คีวจฺเฉทํ ปาปุณาติ ดังนั้น รูปนี้ไม่น่าจะมีการสนธิโดยลบนิคคหิต
เพราะกกฺกฎกามิว ไม่ได้ตัดบทเป็น กกฺกฏกํ อิว แต่เป็น กกฺกฎกา อิว
[2]
สามี
มาจาก สํ ทรัพย์ + อี (อัสสัตถิตัทธิต). สํ = ธนํ ทรัพย์ มีวิ. ว่า
สสฺส อตฺตโน อิทํ สํ สิ่งนี้มีอยู่แก่ตน ชื่อว่า สํ สิ่งของของตน ก็คือ
ทรัพย์. วิ. ทรัพย์ของผู้นี้มีอยู่
ดังนั้น ชื่อว่า สามี. ลบ นิคคหิต ด้วยสูตรนี้ สอี ลงมอาม สมฺอี
ทีฆะสระที่อยู่ติดกับมฺอาคม เป็น สามี. แต่บางแห่ง
สํ+อี แปลง นิคคหิตเป็น มฺ แล้ว ทีฆะเป็นอา
(ปทวิจารทีปนี น. ๗๓๓)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น