ศึกษาบาฬีไวยากรณ์กับคัมภีร์นิรุตติทีปนีิ
คร้้งที่ ๗๕ : อาคมสนธิ การเชื่อมบทโดยการแทรกเสียง
คราวนี้จะเป็นตัวอย่างการใช้สระ
อ เป็นอาคม ชุดสุดท้าย คือ คำว่า อนามต แปลว่า ที่สัตว์ไม่ตายที่พระคันถรจนาจารย์ได้สรุปความหมายว่า
อมตปุพฺพฏฺฐานํ แปลว่า ที่สัตว์ไม่เคยตาย.
อนามตํ
ท่านยกมาจากบาทคาถานี้ครับ
นตฺถิ โลเก
อนามตํ
สถานที่ไม่ตายไม่มีในโลก
ตัวอย่างนี้ยกมาจากอุปสาฬกชาดก
มีความเต็มว่า
๓๑. “อุปสาฬกนามานิ สหสฺสานิ
จตุทฺทส.
อสฺมึ ปเทเส ทฑฺฒานิ นตฺถิ โลเก อนามตํฯ
๓๒. “ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ อหึสา สํยโม ทโม.
เอตํ อริยา เสวนฺติ เอตํ โลเก อนามต”นฺติฯ
[๓๑]
พราหมณ์ชื่ออุปสาฬหกะ จำนวน ๑๔,๐๐๐ คน
ได้ถูกพวกญาติเผาในสถานที่นี้ สถานที่ไม่เคยมีคนตายไม่มีในโลก
[๓๒]
สัจจะ ธรรมะ อหิงสา สัญญมะ และทมะมีอยู่ในผู้ใด
พระอริยะเจ้าทั้งหลายย่อมคบหาบุคคลเช่นนั้น (เพราะ) คุณธรรมชื่อว่าไม่ตายในโลก
คำว่า อนามตํ
ในตัวอย่างพระบาฬีนี้ ตัดบทเป็น น + อมตํ. อ ที่ อมต มีความหมายว่า ไม่ แปลว่า
ที่ไม่ตาย, เมื่อประกอบกับศัพท์ว่า น เป็น นอมต แปลว่า ไม่เป็นที่ไม่ตาย
ลบสระหน้าทีฆสระหลัง เป็น นามตํ, ลง อ เป็นอาคม สำเร็จรูปเป็น อนามตํ. คัมภีร์นิรุตติทีปนีนี้อธิบายไว้ว่า
อมตปุพฺพํ ฐานํ สถานที่ไม่ตายในกาลก่อน คือ สถานที่ไม่เคยตาย
ส่วนวิธีการลง
อ อาคมในตัวอย่างนี้ขอแยกเป็น ๒ มติ คือ อรรถกถาชาดก และปทานุกรมติปิฎกปาลิเมียนมาร์อภิธาน.
๑) ลง ออาคม
หน้า นามตํ มตินี้ว่าตามอรรถกถาชาดกก่อน
คำว่า อนามต
ในที่นี้หมายถึง สถานที่ไม่ใช่ที่ไม่ตาย กล่าวคือ สถานที่ไม่เคยตาย
ในคัมภีร์อรรถกถาชาดก[1]
อธิบายว่า
ตตฺถ อนามตนฺติ
อมตฏฺาน หิ อุปจารวเสน
อมตนฺติ วุจฺจติ ฯ ต ปฏิเสเธนฺโต อนามตนฺติ
อาห ฯ อมตนฺติปิ ปาโ ฯ
โลกสฺมึ หิ อนมตฏฺาน
อสุสานฏฺาน นาม นตฺถีติ อตฺโถ
ฯ
ในคำว่า อนามตํ สถานที่ที่สัตว์ไม่เคยตาย
มีคำวินิจฉัยว่า ที่จริง สถานที่ที่บุคคลตาย เรียกว่า อมตะ เนื่องด้วยอุปจาระ (ใช้คำศัพท์ที่มีความหมายว่า
คนตาย แต่หมายถึง สถานที่ที่คนตาย), เมื่อปฏิเสธสถานที่ตายนั้น
ก็ใช้คำว่า อนามตํ ไม่ใช่ที่ไม่ตาย. ซึ่งความหมายก็คือ สถานที่ไม่ใช่สุสาน คือ
ไม่ใช่ที่ไม่ตาย ย่อมไม่มีในโลก.
จากมติของอรรถกถา
อ ที่ มต เป็นนิบาตใช้ในอรรถปฏิเสธหมายถึง ที่ไม่ตาย และ จะปฏิเสธข้อนั้นซ้ำ จึงกล่าวอีก น อมต เป็น
อนามตํ จึงเท่ากับ สถานที่ไม่ใช่เป็นที่ไม่ตายนั่นเอง
ดังนั้น จุดประสงค์ของการใช้คำนี้ในพระบาฬี
ก็คือ “สถานที่ตาย” นั่นเอง ความหมาย คือ สถานที่ไม่เคยตายของหมู่สัตว์ ไม่มี. สื่อความหมายได้ว่า
ทุกที่เป็นที่สัตว์เคยตายทั้งนั้น.
๒) ออาคม ลงหน้า
มต
ในปทานุกรมติปิฎกปาลิเมียนมาร์อภิธาน
แยกศัพท์ว่า อนมต นี้เป็น น + อมต โดยให้ อ เป็น ตัพภาวัตถะ เพราะไม่มีความหมาย หรือ
ที่เรียกว่า อาคมในที่นี้ ดังนั้น ออาคมตามหลักการนี้จึงลงหน้า มต เป็น อมต แล้วลง
น หน้า อมต กลายเป็น อนามตํ. เมื่อเป็นเช่นนี้ อมต จึงมีความหมายเท่ากับ ที่ตาย
และ ประกอบกับ น จึงมีความหมายว่า ที่ไม่ตาย กล่าวคือ ที่ไม่เคยตาย.
และตามบริบทในพระบาฬี หมายถึง ที่ไม่ตาย ไม่มีในโลก.
อย่างไรก็ตาม การลงอาคมทั้งสองนัย
ก็ไม่ได้ทำให้ความหมายของคำศัพท์เปลี่ยนแปลงเลย
ผู้ศึกษาควรใคร่ครวญวิธีการลงอาคมอย่างใดอย่างหนึ่ง
-------
ก่อนจบสระอ อาคม
มีข้อสังเกตว่า แม้ว่า ในที่อื่น อ จะไม่ถูกเรียกเป็นอาคม แต่เรียกว่า นิบาต
ซึ่งมีรูปเดียวกับ อ ที่กลายมาจาก น และ ปัจจัยบางตัวที่ไม่มีความหมาย
แต่ในที่นี้ท่านเรียกรวมกันเสียทีเดียวว่า อาคม
เพราะถือเป็นเพียงอักษรที่ใช้ในการเชื่อมบทให้สำเร็จ ไม่ได้สื่อความหมายใดๆ.
ขออนุโมทนา
สมภพ สงวนพานิช
[1] ตตฺถ
อนามตนฺติ มตฏฺฐานํฯ ตญฺหิ อุปจารวเสน ‘‘อมต’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ปฏิเสเธนฺโต ‘‘อนามต’’นฺติ อาหฯ ‘‘อนมต’’นฺติปิ ปาโฐ, โลกสฺมิญฺหิ อนมตฏฺฐานํ อสุสานํ นาม
นตฺถีติ อตฺโถฯ (ฉบับฉัฏฐฯ) ในที่นี้ใช้ฉบับสยามรัฐ เพราะดูเหมือนดีกว่า
เหตุที่เข้ากับกฏไวยากรณ์ในที่นี้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น