วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

๓๗.อัปปวิธาน : แปลง อุ อู เป็น อิ และ โอ

#นิรุตติทีปนีแปลเพื่อศึกษาร่วมกัน๒๑

อัปปวิธาน : รูปอุทาหรณ์เล็กน้อยมีใช้ไม่มาก.
กรณีที่ ๓ แปลง อุ อู เป็น อิ และ โอ

๑). แปลง อุ เป็น อิ
มาตุโต = มาติโต  โดยมารดา
ปิตุโต  = ปิติโต  โดยบิดา
มาตุปกฺโข = มาติปกฺโข ข้างมารดา
ปิตุปกฺโข = ปิติปกฺโข ข้างบิดา
มาตุโฆ = มาติโฆ  (ผู้ฆ่ามารดา)
ปิตุโฆ = ปิติโฆ   (ผู้ฆ่าบิดา)
[ตัวอย่างเหล่านี้ สังเกตที่ อิ ของ มาติ และปิติ ที่กลายมาจาก อุ ของ มาตุ และ ปิตุ ตามหลักการนี้.]

มาตุ + ณิก =  มตฺติกํ มาจากมารดา
มตฺติกํ ธนํ ทรัพย์มาจากมารดา
[มตฺติกํ แปลว่า ทรัพย์ที่มาจากมารดา ความหมายคือ ทรัพย์ข้างมารดา หรือ ทรัพย์ที่เป็นของมารดา. มตฺติกํ คือ มาตุ > มาติโต  + ณิก  = อาคต มาแล้ว. รูปนี้ แปลง อุ ที่ มาตุ เป็น มาติ ในหลักการนี้ แล้วลง ณิก ปัจจัย แทนคำว่า อาคต แล้วซ้อน ตฺ เป็น มาตฺติก รัสสะเป็น มตฺติก. (ดูสูตรที่ ๔๖๕. ตโต สมฺภูตมาคตํ. และอรรถกถาพระวินัยว่า  (ปารา. อฏฺ ๑/๓๔) ทรัพย์ที่มาแล้ว จากมารดา, ได้แก่ ทรัพย์ที่ยายให้แม่ติดตัวมาสู่บ้านสามี]

ปิตุ + ณิก ธนํ = เปตฺติกํ มาจากบิดา
เปตฺติกํ ธนํ ทรัพย์มาจากบิดา
[แม้คำนี้ก็เหมือน มตฺติกํ ในแง่ของการสร้างรูปคำ. ส่วนตัวอย่างการใช้ต่างกันตรงที่มาในพระบาฬี คือ เป็นทรัพย์ส่วนรวมระหว่างของปู่และบิดาที่สะสมมาและทำให้เกิดขึ้นอีก. ดูปารา. อฏฺ ๑/๓๔).]

๒). แปลง อุ เป็น โอ เช่น
อปิ นุ ลจฺฉสิ = อปิ โน ลจฺฉสิ,  
ท่านจักได้บ้างหรือ
กจฺจิ นุ ตุมฺเห ยาเปถ  = กจฺจิ โน ตุมฺเห ยาเปถ
ท่านได้ยังอัตตภาพให้เป็นไปได้หรือไม่ (ท่านยังไหวอยู่หรือ)
กถํ นุ ตุมฺเห ยาเปถ = กถํ โน ตุมฺเห ยาเปถ,.
ท่านจะยังอัตตภาพให้เป็นไปได้อย่างไร (ท่านจะดำรงชีพอย่างไร)
โสตุกามตฺถ นุ ตุมฺเห ภิกฺขเว = โสตุกามตฺถ โน ตุมฺเห ภิกฺขเว,
ภิกษุท. พวกเธอเป็นผู้ต้องการสดับหรือไม่. (พวกเธออยากฟังไหม?)
น นุ สมํ อตฺถิ = น โน สมํ อตฺถิ
สิ่งที่เสมอกันไม่มีแน่นอน
น หิ นุ สงฺกรนฺเตน = น หิ โน สงฺกรนฺเตน  
เพราะไม่มีใครผู้จะสามารถผัดผ่อนมัจจุราชได้อย่างแน่นอน
นตฺถิ นุ โกจิ ปริยาโย = นตฺถิ โน โกจิ ปริยาโย
ย่อมไม่มีบางสิ่งแน่นอน
[อุทาหรณ์เหล่านี้ สังเกตที่ อุ ของ นุ จะกลายเป็น โอ และเป็นรูปว่า โน ด้วยหลักการนี้. เฉพาะ ๓ ตัวอย่างหลัง นุ เป็นเอกังสัตถนิบาต บอกความแน่นอน ส่วนที่เหลือเป็นปุจฉนัตถนิบาต บอกการถาม.]

          สุสิโต = โสสิโต ชุ่มฉ่ำดี (เย็นดีแล้ว)
สุตตฺโต = โสตตฺโต ร้อนดี (ร้อนดีแล้ว)
[สองอุทาหรณ์นี้ สังเกต อุ ที่สุ จะกลายเป็น โอ คือ โสสิโต และ โสตตฺโต.
โสสิโต ความหมายด้วยคำอธิบายในที่นี้ คือ เย็นดีแล้ว สุฏฺฐุ สีตโล และ โสตตฺโต  คือ ร้อนดีแล้วสุฏฺฐุ สนฺตตฺโต.  รูปนี้มาในโลมหังสชาดก (ขุ.ชา. ๑/๙๔) และอรรถกถาชาดกอธิบายว่า ที่ว่า ชุ่มฉ่ำดี คือ ชุ่มฉ่ำดีด้วยน้ำที่ละลายจากน้ำแข็ง (หิโมทเกน สุสิโต สุฏฺฐุ ตินฺโต) ส่วน โสตตฺโต คือ แห้งดีด้วยความร้อนจากแสงแดด (สูริยสนฺตาเปน สุฏฺฐุ ตตฺโต) ]

ชมฺพุนทํ = ชมฺโพนทํ คือ เกิดในแม่น้ำชัมพุ
[รูปนี้ตัดเป็น ชมฺพุ + นที = ชมฺโพนที + ณ ปัจจัย = ชาตํ เกิดแล้ว.   ในกรณีนี้ อุ ของ ชมฺพุ เป็น โอ = ชมฺโพนทํ ตามหลักการนี้ก่อน แล้วจึงลงตัทธิตปัจจัย  มีวิ.ว่า ชมฺพุนทิยา ชาตํ ชมฺโพนทํฯ  ชมฺโพนทํ คือ สิ่งที่เกิดในแม่น้ำ. 
เมื่อลง ณ ในอรรถชาต เกิดแล้ว ด้วยสูตร ๔๕๓. ตตฺร ภเว  ลง ณปัจจัย ในอรรถมีในที่นั้น (หรือลงด้วยสูตรรูปสิทธิว่า ๓๗๖. ณ ราคา เตนรตฺตํ ตสฺเสทมญฺญตฺเถสุ จ ลง ณปัจจัยในอรรถย้อมด้วยสิ่งนั้น,ในอรรถนี้เป็นของสิ่งนั้น และอื่นๆฯ แล้ว แทนที่จะเป็น ชมฺโพนที แต่เป็น ชมฺโพนท โดยจึงแปลง อิ ท้าย นทิ เป็น อ ด้วยสูตรใหญ่ เหมือนที่กล่าวมาแล้ว]


------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น